วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การแต่งหน้าให้สวยตาม 12 ราศี

"การแต่งหน้าให้สวยตาม 12 ราศี"

ราศีมังกร สาวราศีนี้ควรใช้สีเอิร์ธโทนจะเหมาะเป็นอย่างยิ่ง เพราะจมูกกับคอสวยอยู่แล้ว แค่แต้มปากสีอ่อนๆออกมันวาวก้อสวยเริ่ดแล้วค่ะ
ราศีกุมภ์ เป็นคนรักอิสระชอบทันสมัยและมีอารมณ์ศิลปิน ชอบแต่งหน้ามีสีสัน แต่ควรเน้นเปลือกตาสีฟ้า ม่วง และปากที่เอิบอิ่ม คือ สีชมพูอมแดง
ราศีมีน เน้นที่ดวงตาให้กลมโตใสใช้สีฟ้าอ่อนๆ หรือชมพูก็ได้ น้ำตาลก้อยิ่งดีเน้นสวยหวานสีปากเน้นโทนมุกก็จะดูอวบอิ่มเซ็กซี่เป็นที่สุด
ราศีเมษ คุณเป็นคนมีพลังชีวิตชีวาอยู่แล้ว แต่งโทนสีชมพู แดง หรือแดงอมส้มได้เลย ปัดแก้มเน้นจุดกึ่งกลางหน้าผากอีกนิดหน่อย ว้าวใครๆ ก็เหลียวหลัง
ราศีพฤษภ ควรแต่งสไตล์ธรรมชาติใช้ได้ทุกสี แต่ให้ลงอ่อนๆ ไม่หนาโบ๊ะจนเกินไป เน้นตาที่สดใส ใช้สีฟ้าอ่อนเน้นความหวานก็ดี
ราศีเมถุน คุณเป็นคนใบหน้ามีเสน่ห์ ใบหน้าอ่อนกว่าวัย ช่างเจรจา ฉะนั้นควรเน้นที่ปากอันอวบอิ่ม ใช้สีชมพู ชมพูส้ม หรือสีแฟชั่นในแต่ละเทรนด์

วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

"เคล็ดลับผิวสวยด้วยธรรมชาติ "การนอน"

"เคล็ดลับผิวสวยด้วยธรรมชาติ "การนอน"



 
การนอนหลับเป็นสิ่งที่จะทำให้ร่างกายสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ถ้านอนหลับไม่เพียงพอผิวพรรณก็จะโทรมตามไปด้วย สังเกตได้ชัดเจนว่า ผู้ที่นอนหลับไม่พอจะมี"ใบหน้าหมองคล้ำ"หรือ"มีถุงใต้ตา"
# หากเรานอนหลับอย่างเพียงพอร่างกายจะสามารถหลั่งสารเมลาโทนินออกมาได้ดี ซึ่งสารนี้จะถูกสร้างออกมามากในตอนกลางคืนช่วงที่เรานอนหลับนั่นเอง "สารเมลาโทนิน" จะช่วยปกป้องเซลล์ผิวหนังจากสารอนุมูลอิสระต่าง และยังช่วยชะลอความชราภาพที่จะมาเยือนผิวหนังของเราด้วย แถมยังช่วยรักษาความอ่อนเยาว์ทำให้ดูสดชืน ,ผู้ใหญ่ก็ต้องการเวลาพักผ่อนประมาณ 7-8 ชั่วโมง
# ไม่ควรเข้านอนเกิน 4 ทุ่ม เพราะในฮอร์โมนต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกายจะสร้างตามเวลาที่กำหน ถ้านอนดึกร่างกายจะไม่สามารถผลิตฮอร์โมนออกมาได้อย่างเต็มที่

วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556


5 สุดยอดอาหารดีท็อกซ์


สาวๆ รู้ไหมคะการกินอาหารผิดๆ รวมถึงอากาศเป็นพิษที่เราหายใจเข้าไปตลอดจนความเครียด รวมทั้งปฏิกิริยาทางเคมีในร่างกายของเราซึ่งเกิดขึ้นตลอดเวลา ล้วนแต่ทำให้เกิด ท็อกซิน (TOXIN)หรือพิษ ขึ้นในตัวเราจนอาจทำให้เราเจ็บป่วยเป็นโรคต่างๆขึ้นได้ อาการต่างๆ เช่น ลิ้นเป็นฝ้า ตาขุ่น ปากแห้ง จมูกแห้ง ตัวร้อน หน้าตาไม่สดใส ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว คอ หลัง ไหล่ นอนไม่หลับ ฯลฯ ถึงคราวต้องกำจัดท็อกซินเหล่านี้ออกเสียก่อนที่มันจะทำลายสุขภาพของคุณมากไปกว่านี้ วิธีกำจัดท็อกซินเรียกว่า ดีท็อกซิฟิเคชั่น (DETOXIFICATION) หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า "ดีท็อกซ์" นั่นเอง การทำดีท็อกซ์นั้นมีหลายแบบด้วยกันแต่ถ้าง่ายที่สุดก็คือการเลือกกินที่อาหารที่ช่วยขจัดของเสียออกไปนั่นเอง



1 กระเทียม ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันและมีคุณสมบัติในการขับพิษ ยับยั้งพิษ และสลายพิษอยู่ครบถ้วนทั้งสามคุณสมบัติ อาจจะเป็นอาหารที่มีกลิ่นเพราะมีกำมะถันเป็นส่วนประกอบ ซึ่งกำมะถันจะจับโลหะหนักที่เป็นพิษและถูกกำจัดออกทางอุจจาระ

2 มะนาว เป็นแหล่งอาหารวิตามินซีสูง ช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายและเผาผลาญไขมัน การดื่มน้ำมะนาว (แบบไม่ใส่น้ำตาล) ทุกเช้าจะช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย รวมถึงสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่เรียกว่า ไบโอฟลาโวนอยด์อยู่สูง จึงช่วยการทำงานของตับได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยในการล้างสารพิษ 

3 ขิง นอกจากจะเพิ่มรสชาติเผ็ดร้อนให้อาหารแล้วยังช่วยขับของเสียออกจากผิวหนังได้อีกด้วย ด้วยการนำขิงบดละเอียดพร้อมกับเกลืออาบน้ำลงในอ่างอาบน้ำร้อน หลังจากนั้นลงไปแช่ตัวให้นานเท่าที่ทำได้ เท่านี้จะเป็นการขับของเสียออกจากร่างกายได้อีกหนึ่งทาง 

4 บีทรูท ไฟเบอร์จากบีทรูทจะเพิ่มการผลิตเอ็มไซม์ต่อต้านอนุมูลอิสระในตับซึ่งจะช่วยตับและถุงน้ำดีกำจัดสารพิษอื่นๆ ออกจากร่างกาย แถมยังมีสารเบทาไซอานิน (betacyanin) ซึ่งเป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส แต่ถ้าต้องการให้ได้รับวิตามินครบถ้วน ควรกินดิบ ๆ โดยนำไปขูดฝอยกินเป็นสลัด

5 กะหล่ำปลีแดง ผักกาดขาว กะหล่ำปลี หรือผักกวางตุ้งไต้หวัน (bok choy) เป็นอาหารดีท็อกซ์ชั้นยอด ทำเป็นสลัด หรือนำไปผัด หรือนำไปต้มและผัดเร็ว ๆ ด้วยไฟแรงในน้ำมันมะกอก ช่วยเพิ่มไฟเบอร์และขจัดสารพิษอีกด้วย

เรียบเรียงข้อมูล : Chalida Rita 
อ้างอิงจาก http://www.globalhealingcenter.com