วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ทำไมถึงใช้ครีมกันแดดไม่ได้ผล ?


ทำไมถึงใช้ครีมกันแดดไม่ได้ผล ?


1. ครีมกันแดดเสื่อมคุณภาพไป  เช่น ทิ้งไว้นานเกิน 2 ปี นั่นก็คือ สารที่ช่วยในการต่อต้านรังสี UV ได้เสื่อมสภาพไปแล้วเมื่อทิ้งไว้เป็นเวลานานๆ ดังนั้นควรเก็บครีมกันแดดหลังเปิดใช้แล้วไม่เกิน 2 ปี หรือตรวจสอบว่าทางร้านเก็บผลิตภัณฑ์ก่อนขายมานานเท่าไหร่โดยตรวจสอบวันเดือนปีที่ผลิตให้ดีๆ ก่ิอนเลือกซื้อมาใช้
2. การจัดเก็บครีมกันแดดไม่ถูกวิธี คือการเก็บครีมกันแดดไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป หรือ ที่ที่มีความร้อนหรือแสงแดดส่องเข้ามาถึงทำให้ครีมกันแดดนั้นเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนดเมื่อนำมาใช้แน่นอนว่า ครีมกันแดดจะไม่ได้ผล
3. ทาครีมกันแดดไม่ถูกวิธี นั่นก็คือ ทาครีมกันแดดก่อนออกไปเจอแสงแดดทันทีโดยที่ครีมกันแดดนั้นยังไม่ซึมซับผ่านเข้าไปยังผิวหนังของเราเมื่อถูกแดดเผาสารที่ช่วยปกกันก็ระเหยออกไปหมดและไม่สามารถปกป้องผิวจากแสงแดดนั้นได้ ดังนั้นควรจะต้องทาครีมกันแดดก่อนออกแดดอย่างน้อย 30-40 นาที
4. การเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF ไม่เหมาะกับผิว หรือการใช้งาน คือบางคนคิดว่าการเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ จะช่วยให้ปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ดี ในขณะที่คุณไม่ได้ออกไปเจอแสงแดดแรงๆ ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร และอาจจะทำให้เกิดการสะสมของสารเคมีบนผิวหนังของคุณได้ทำให้ผิวของคุณเกิดการระคายเคืองได้ง่าย และการเลือกกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบางอีกด้วย และคนที่ผิวที่มีเหงื่ออกมากๆ ควรจะใช้ครีมกันแดดที่กันน้ำจะดีที่สุดคะ
รังสี UVA ทำให้ผิวหนังมีสีคล้ำ แดง และสามารถ ผ่านทะลุเข้าสู่ผิวหนังชั้นที่อยู่ลึกลงไปได้ ทำให้ผิวหนังปรากฏเป็นริ้วรอยเหี่ยวย่น รอยตีนกา ทำให้เซลผิวหนังเสื่อมและแก่ก่อนวัย
รังสี UVB สามารถทำให้เกิดผิวไหม้อักเสบ บวมแดง และหากได้รับรังสีเป็นระยะเวลายาวนาน อาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ เป็นรังสียูวีในสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ถ้าได้รับมาก จะทำให้ผิวแสบแดงอักเสบและเป็นสาเหตุของ ฝ้า กระและความแห้งกร้านของผิว
สาระน่ารู้ : การที่ใช้ครีมกันแดดผสมรองพื้นนั้นจะทำให้ประสิทธิภาพของการปกป้องแสงแดดลดลงกว่าการใช้ครีมกันแดดแบบไม่ผสม ดังนั้นควรเลือกครีม หรือ โลชั่นกันแดดให้เหมาะสมกับผิวและสถานการณ์ที่ต้องใช้ รวมถึงควรทาครีมกันแดดทุกๆ 1-2 ชั่วโมงเวลาที่ออกแดดจัดๆ เป็นเวลานานเพื่อให้ได้ผลดี

เล็ดลับความงาม ผิวสวยจากภายใน เพิ่มเติม ----> www.BeautyByStemCell.com
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Lisa Guru .com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น